MD-ZONE : Tablets store
MD-ZONE : Tablets store: MD-ZONE Shopping online Shop our Tablets store for a wide selection of tablets including the iPad, Galaxy, Nexus, and more. ...
MD-ZONE : MD-ZONE : Shopping
MD-ZONE : MD-ZONE : Shopping: MD-ZONE : Shopping : A-storezone online Shopping online for various products หน้าแรก สินค้าจาก astore Apparel Accessories ...
คอมฯใหม่ ต้องลงโปรแกรมอะไรบ้าง
คอมฯใหม่ ต้องลงโปรแกรมอะไรบ้าง
สำหรับทุกๆ คนที่กำลังจะซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ หรือซื้อคอมพิวเตอร์มาแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรดี และแต่ละโปรแกรมมีความสามารถอย่างไร วันนี้มีคำตอบให้แล้วครับ อย่างไรก็ตาม เราจะเป็นต้องทราบว่า โปรแกรมไหนเป็นของฟรี และโปรแกรมไหนที่ต้องเสียเงินซื้อ จะได้ไม่ถูกหลอก
สำหรับทุกๆ คนที่กำลังจะซื้อคอมพิวเตอร์ใหม่ หรือซื้อคอมพิวเตอร์มาแล้ว แต่ไม่ทราบว่าจะต้องติดตั้งโปรแกรมอะไรดี และแต่ละโปรแกรมมีความสามารถอย่างไร วันนี้มีคำตอบให้แล้วครับ อย่างไรก็ตาม เราจะเป็นต้องทราบว่า โปรแกรมไหนเป็นของฟรี และโปรแกรมไหนที่ต้องเสียเงินซื้อ จะได้ไม่ถูกหลอก
ความสำคัญ | รายละเอียดโปรแกรม |
โปรแกรม พื้นฐาน? |
|
โปรแกรม เสริม |
|
โปรแกรมป้องกัน ไวรัส |
|
- นอกจากนี้ การจะเลือกซื้อและติดตั้งโปรแกรมอื่นๆ เพิ่มเติม ย่อมขึ้นกับการนำไปใช้งาน เช่น ถ้าเป็นผู้พัฒนาโปรแกรม ย่อมต้องการโปรแกรมหรือเครื่องมือในการสร้างและจัดการ คนที่ทำงานด้านกราฟฟิก ก็ต้องการโปรแกรมสำหรับการตัดต่อภาพ เป็นต้น
- อีกแนวทางหนึ่งคือ การใช้โปรแกรมประเภทฟรีแวร์ ที่สามารถหาได้ง่ายๆ จากเว็บไซต์แห่งนี้? ซึ่งฟรีแวร์เป็นโปรแกรมที่ทางผู้ผลิตๆ ขึ้นมาให้เราสามารถใช้งานได้ฟรีๆ ไม่มีวันหมดอายุด้วยครับ.
http://astore.amazon.com/a-storezone-20
การถนอมสายตาสำหรับผู้ใช้งานคอม
การถนอมสายตาสำหรับผู้ใช้งานคอม
สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทุกท่าน
เรามาพูดเรื่องสุขภาพกันสักนิด สำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ทุกท่าน โดยเฉพาะเรื่องสายตา ที่ผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ควรทราบเป็นอย่างยิ่ง ด้วยวิธีง่ายๆ แต่ได้ผลชงัก ไม่ต้องลงทุนอะไรมากมาย พร้อมหรือยังครับ..วิธีถนอมสายตาสำหรับผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์
- ใช้จอภาพ LCD (จอบาง) แทนจอภาพ CRT (จออ้วน) เพราะ CRT มีรังสีแผ่ออกมาค่อนข้างมาก แถมยังมีความร้อนสูงด้วย
- ตั้งเครื่องคอมพิวเตอร์อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยเฉพาะต้องมีแสงเพียงพอ และไม่สะท้อนแสงกับแสงพระอาทิตย์ เพราะอาจทำให้มีปัญหาเกี่ยวกับโรคทางสายตาได้ง่ายๆ
- ควรพักสายตาทุกครั้งอย่างน้อย 5-10 นาทีทุกครั้ง?ที่ทำงานต่อเนื่อง 1 - 2 ชั่วโมง
- หยุด ! การใช้งานทุกครั้ง ที่รู้จักว่าสายตาล้า หรือมีอาการปวด
- ปรับแสงความสว่างของหน้าจอให้เหมาะสม ไม่จ้าเกินไป
- หลีกเลี่ยงการใช้งานหน้าจอที่เบลอ ไม่คมชัด เพราะจะทำให้สายตามีปัญหาได้ (ควรรีบแก้ไข หรือส่งซ่อม)
- หลีกเลี่ยงการใช้งานหน้าจอที่สีเพี้ยน
- ถ้าจำเป็นต้องทำงานต่อเนื่อง อาจซือแว่นสายตา ป้องกันรังสี (เลนส์จะมีสีเหลือง) มาใส่
- ติดตั้งต้นไม้ ตะบองเพชร เพื่อช่วยดูดซับรังสี? (ช่วยลดโลกร้อนด้วย)? ขนาดเล็กๆ ก็พอน่ะครับ
โฉมใหม่ของ Facebook
โฉมใหม่ของ Facebook
ทีมงาน Facebook ได้พูดถึง Facebook ในรูปลักษณ์ปัจจุบันนั้น ถูกวิพากวิจารณ์ว่าระเกะระกะ และไม่เกิดประโยชน์กับผู้ใช้เท่าที่ควร ซึ่งเป็นโจทย์ที่ทำให้ทีมงาน Facebook ได้แก้ไขรูปแบบใหม่ออกมาเพื่อบอกลาความระเกะระกะ (Goodby Clutter) โดยในรูปลักษณ์ใหม่นี้ เน้นที่ 1-รูปและเรื่องราวที่แสดงมีขนาดใหญ่ขึ้น ดูเป็นเรื่องเป็นราวมากกว่าแค่การมองผ่าน ๆ ไป 2-มีคำสั่งให้ผู้ใช้สามารถควบคุมการแสดงผล และจัดหมวดหมู่ได้ดั่งใจมากกว่าเดิม และ 3-กว่าจะออกมาเป็นรูปลักษณ์ใหม่นี้ ทางทีมงานได้ออกแบบการแสดงผลให้เข้ากับขนาดของจอ ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ, tablet และคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี เพื่อให้เหมาะกับผู้ใช้กับทุกอุปกรณ์ (device) เป็นอย่างดี
หากใครสนใจที่จะได้ทราบเรื่องราว เกาะติดกับ Facebook โฉมใหม่นี้ หรืออาจได้ใช้ก่อนใคร ให้ไป "Join Waiting List" ได้ที่
ป้ายกำกับ:
facebook
การใช้ Keyboard Shortcut ที่เร็วกว่า Mouse
การใช้ Keyboard Shortcut ที่เร็วกว่า Mouse
สำหรับบางท่าน อาจทราบว่า เราสามารถใช้ปุ่ม keyboard ในการสั่งคำสั่งเหล่านี้ได้ และรวดเร็วกว่า เพราะไม่ต้องเลื่อน mouse เพื่อคลิ๊ก และคลิ๊ก การใช้ปุ่มต่าง ๆ ในการสั่งนี้ เรียกว่า "Keyboard Shortcut" ที่เป็นการใช้ปุ่ม "Command Key" เช่น Ctrl, Shft และ Alt ควบคู่กับปุ่มตัวอักษร A,B,C...
ลองมาดูมีคำสั่งอะไรที่เราใช้กันเป็นประจำ แล้วสามารถทดแทนด้วย Shortcut กันได้ รู้ไว้ใช่ว่า เผื่อวันไหน mouse ไม่ให้ความร่วมมือด้วย เรายังมี keyboard ที่เป็นเพื่อนเราอยู่เสมอ
สำหรับผู้ใช้โปรแกรมบน Windows ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมอะไรก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ mouse ที่ใช้ในการเลื่อนไปคลิ๊กปุ่มคำสั่งต่าง ๆ เช่นคลิ๊กที่ tab menu "File", คลิ๊กที่เมนูย่อย "Save" แต่ในหลาย ๆ โปรแกรมที่ใช้ ในบางครั้งจะสั่ง copy ก็ต้องคลิ๊กที่ tab menu "Edit", "Copy" พอจะไปวางไว้ที่ไหนก็ต้องคลิ๊ก tab menu "Edit", "Paste" ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เราคุ้นเคยกันมานาน
ตารางปุ่ม Shortcut ที่นิยมใช้
ลองมาดูมีคำสั่งอะไรที่เราใช้กันเป็นประจำ แล้วสามารถทดแทนด้วย Shortcut กันได้ รู้ไว้ใช่ว่า เผื่อวันไหน mouse ไม่ให้ความร่วมมือด้วย เรายังมี keyboard ที่เป็นเพื่อนเราอยู่เสมอ
สำหรับผู้ใช้โปรแกรมบน Windows ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมอะไรก็ตาม สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ mouse ที่ใช้ในการเลื่อนไปคลิ๊กปุ่มคำสั่งต่าง ๆ เช่นคลิ๊กที่ tab menu "File", คลิ๊กที่เมนูย่อย "Save" แต่ในหลาย ๆ โปรแกรมที่ใช้ ในบางครั้งจะสั่ง copy ก็ต้องคลิ๊กที่ tab menu "Edit", "Copy" พอจะไปวางไว้ที่ไหนก็ต้องคลิ๊ก tab menu "Edit", "Paste" ซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เราคุ้นเคยกันมานาน
ตารางปุ่ม Shortcut ที่นิยมใช้
F1 | เรียกคู่มือ หรือคำแนะนำของโปรแกรมที่กำลังใช้งานในขณะนั้น |
Home | ให้ cursor เลื่อนไปอยู่ที่ตำแหน่งเริ่มต้นของบรรทัด |
End | ให้ cursor เลื่อนไปอยู่ที่ตำแหน่งสุดท้ายของบรรทัด |
Ctrl + A | เลือกทั้งหมด (select all) |
Ctrl + C | คัดลอก (copy) |
Ctrl + O | เปิดไฟล์ (open) |
Ctrl + P | สั่งพิมพ์ |
Ctrl + S | บันทึก (save) |
Ctrl + V | วาง (paste) |
Ctrl + X | ตัดในส่วนที่เลือกไว้ (cut) |
Ctrl + Home | ให้ cursor เลื่อกลับไปที่ตำแหน่งเริ่มต้นของหน้า |
Ctrl + End | ให้ cursor เลื่อกลับไปที่ตำแหน่งสิ้นสุดของหน้า |
Ctrl + Left arrow | ให้ cursor เลื่อนไปทางซ้ายทีละคำ ได้ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ |
Ctrl + Right arrow | ให้ cursor เลื่อนไปทางขวาทีละคำ ได้ทั้งภาษาไทย และอังกฤษ |
Shift + Home | เลือกตั้งแต่จุดที่ cursor อยู่ให้คลุมไปถึงตำแหน่งเริ่มต้นของบรรทัด |
Shift + End | เลือกตั้งแต่จุดที่ cursor อยู่ให้คลุมไปถึงตำแหน่งสิ้นสุดของบรรทัด |
Shift + F10 | คลิ๊กขวา |
Alt + E | เลือก tab menu "Edit" ของโปรแกรมที่กำลังใช้งานในขณะนั้น |
Alt + F | เลือก tab menu "File" ของโปรแกรมที่กำลังใช้งานในขณะนั้น |
Alt + PrtSc
(print screen)
| copy หน้าจอเฉพาะส่วนที่แสดงในขณะนั้น (ไม่ใช่ทั้งจอภาพ) ไป pasted เป็นไฟล์ภาพ |
ป้ายกำกับ:
การใช้ Keyboard
Tablets store
MD-ZONE Shopping online
Shop our Tablets store for a wide selection of tabletsincluding the iPad, Galaxy, Nexus, and more.


Samsung Galaxy Tab 2 (7-Inch, Wi-Fi)
http://astore.amazon.com/a-storezone-20?_encoding=UTF8&node=282
ป้ายกำกับ:
Md-zone shop
MD-ZONE : Shopping
MD-ZONE : Shopping: A-storezone online Shopping online for various products หน้าแรก สินค้าจาก astore Apparel Accessories Comput...
ป้ายกำกับ:
Md-zone shop
Google Panda คืออะไร
Google Panda คืออะไร
แพนด้าเป็นชื่อเรียกของสัตว์ที่เราๆคุ้นเคยกันดีกับความน่ารักของมัน แต่ใครจะรู้บ้างว่า google เองกลับเอาชื่อแพนด้าไปใช้ในการตั้งชื่อ Algorithm ตัวใหม่ที่คิดค้นโดย Matt Cutts และ Amit Singhal พนักงานชื่อดังแห่ง google ซึ่ง Algorithm ตัวใหม่นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อกำจัดเว็บขยะทั้งหลายแหล่ออกจากระบบค้นหาของ google โดยผู้ได้รับผลประโยชน์ก็คือผู้ที่ใช้เครื่องมือค้นหาของ google ซึ่งจะได้รับข้อมูลที่ดีและมีประโยชน์อย่างแท้จริง
แต่ผลกระทบนี้เต็มๆคือผู้สร้างเว็บที่มีการก้อปปี้บทความจากเว็บอื่นมาลง โดยเฉพาะผู้สร้างเว็บปั่น ไม่ว่าจะเพื่อขายสินค้าหรือหวังผลใดๆก็ตาม และนอกจากนี้ แพนด้าเองยังเป็น Algorithm ที่มีความละเอียดอ่อนมาก เรามาอ่านข้อสรุปต่อไปนี้ว่าเจ้าแพนด้าจาก google ทำไรได้บ้างนอกจากกำจัดเว็บก้อปปี้ทั้งหลายแหล่ไม่แน่เสนอไปว่าเว็บของคุณที่มีบทความไม่ซ้ำกับใครจะรอดพ้นเจ้าแพนด้าไปได้ นอกจากแพนด้าจะจัดการกับเว็บที่มีการก้อปปี้เนื้อหาแล้ว หากเว็บของคุณมีการเน้นการทำ seo ด้วยการใช้โปรแกรมรีไรท์บทความ ก็อาจโดนเล่นงานได้ นั่นก็เพราะว่าบทความที่ผ่านกระบวนการรีไรท์ด้วยโปรแกรมส่วนใหญ่มักเป็นการ นำบทความดั้งเดิมมาเปลี่ยนคำบางคำ ซึ่งหากเป็นบทความภาษาอังกฤษเรามักพบว่า บทความที่ได้มีคุณภาพต่ำมาก ฝรั่งอ่านแล้วเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง การรีไรท์บทความโดยส่วนใหญ่ก็เพื่อหวังทำอันดับใน google ด้วยการนำบทความที่มีอยู่แล้วจากเว็บอื่นๆมาเรียบเรียงใหม่ด้วยการแทนคำที่ คล้ายกันเพื่อให้ google เข้าใจว่าเป็นบทความใหม่นั่นเอง สำหรับการรีไรท์บทความยังทำได้แต่ต้องเป็นการเรียบเรียงที่มีคุณภาพไม่ใช่ หวังแต่ปริมาณเพื่อให้ติด Keyword ต่างๆในหน้าค้นหา มิเช่นนั้นคุณก็อาจตกเป็นเหยื่อของเจ้าหมีแพนด้าได้
เนื้อหาสั้นมากเกินไปและไม่มีประโยชน์กับผู้อ่านก็อาจถูกเจ้าแพนด้าจับกินได้เช่นกัน เพราะโดยส่วนมากเนื้อหาสั้นๆผู้ทำ seo ส่วนมากจะถนัดกันที่จะเขียนบทความไม่เกิน 500 ตัวอักษรเพื่อหวังจะทำลิงค์ยิงเข้าเว็บของตัวเองให้ได้มากที่สุด แต่จากนี้ไปคงต้องคิดใหม่ทำใหม่กันเสียแล้วครับ
Google ยังคงสานต่อจาก Algorithm
ที่ผ่านมานั่นคือการกรองเว็บไซต์หรือบทความที่ไม่มีประโยชน์กับผู้ชมออกจาก
ระบบการค้นหา แต่ในกรณีนี้อาจจะไม่ถึงกับหายไปจากการค้นหา
แต่อาจจะส่งผลให้อันดับเว็บของคุณร่วงไปอยู่หน้าท้ายๆของการค้นหาก็เป็นได้
เมื่อเราได้รู้กันแบบนี้แล้วทางออกสำหรับนักทำเว็บที่หวังผลกับ google จึงต้องมีการปรับปรุงในหลายๆเรื่องดังต่อไปนี้
1. หากเว็บไซต์ของคุณมีการอัพเดทบทความโดยอาศัยการลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นๆ ควรอัพเดทไม่เกิน 10 เรื่องต่อวัน และในทุกบทความให้เขียนเกริ่นนำและปิดท้ายบทความด้วยข้อความปิดท้ายที่เขียน ขึ้นเอง
2. ตรวจสอบจากเครื่องมือวัดสถิติอย่างสม่ำเสมอว่าผลการค้นหาจากคำต่างๆที่ได้มาจาก google มีการเพิ่มขึ้นหรือลดลง หากเริ่มลดลงให้หยุดทำการอัพเดทเป็นการชั่วคราว
3. หากในเว็บของคุณมีบทความที่เขียนขึ้นเองรวมอยู่กับบทความที่ลอกมาจากแหล่ง อื่นๆ ให้หา backlink ยิงมาที่หน้าบทความที่คุณเขียนขึ้น วิธีนี้เป็นการให้ google ให้น้ำหนักกับเว็บของคุณมากยิ่งขึ้น โดยในหน้าบทความที่เขียนขึ้นเองให้ทำเมนูลิงค์ส่งกลับไปที่หน้าแรกเท่านั้น ไม่ควรส่งต่อไปยังหน้าอื่นๆที่เป็นบทความที่คัดลอกมา
หากต้องการเพิ่มลิงค์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น คุณอาจจะเพิ่มลิงค์เข้า 48 สารบัญเว็บของ ThaiGetLink ดูรายละเอียดได้ที่ www.thaigetlink.com โดยใช้เทคนิคลิงค์ง่ายๆดังนี้ นำ URL ของหน้าบทความที่ต้องการจะโปรโมทมาใช้ในการเพิ่มลิงค์แทนหน้าแรก แต่ให้มีลิงค์เชื่อมโยงจากหน้าบทความไปสู่หน้าแรกได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้บทความของคุณมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และจะทำให้โดเมนหลักได้ผลประโยชน์ในเรื่องของการทำ seo ไปด้วย
และทั้งหมดนี้เราจะเห็นได้ว่า google ได้พยายามที่จะปรับเปลี่ยนเครื่องมือค้นหาเพื่อให้ผู้ชมได้รับข้อมูลที่มี ประโยชน์อย่างแท้จริง หากเราสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาโดยมีเนื้อหาที่มีความจริงใจต่อผู้ชมแล้ว ไม่ว่า google จะเปลี่ยนแปลง Algorithm ไปสักเพียงใด ผลกระทบก็จะไม่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ของคุณมากเท่ากับการปั่นเว็บออกมามากๆโดย มุ่งเน้นแต่ผลประโยชน์ สุดท้ายแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากการเป็นเว็บขยะในสายตาของ google นั่นเอง
เมื่อเราได้รู้กันแบบนี้แล้วทางออกสำหรับนักทำเว็บที่หวังผลกับ google จึงต้องมีการปรับปรุงในหลายๆเรื่องดังต่อไปนี้
1. หากเว็บไซต์ของคุณมีการอัพเดทบทความโดยอาศัยการลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นๆ ควรอัพเดทไม่เกิน 10 เรื่องต่อวัน และในทุกบทความให้เขียนเกริ่นนำและปิดท้ายบทความด้วยข้อความปิดท้ายที่เขียน ขึ้นเอง
2. ตรวจสอบจากเครื่องมือวัดสถิติอย่างสม่ำเสมอว่าผลการค้นหาจากคำต่างๆที่ได้มาจาก google มีการเพิ่มขึ้นหรือลดลง หากเริ่มลดลงให้หยุดทำการอัพเดทเป็นการชั่วคราว
3. หากในเว็บของคุณมีบทความที่เขียนขึ้นเองรวมอยู่กับบทความที่ลอกมาจากแหล่ง อื่นๆ ให้หา backlink ยิงมาที่หน้าบทความที่คุณเขียนขึ้น วิธีนี้เป็นการให้ google ให้น้ำหนักกับเว็บของคุณมากยิ่งขึ้น โดยในหน้าบทความที่เขียนขึ้นเองให้ทำเมนูลิงค์ส่งกลับไปที่หน้าแรกเท่านั้น ไม่ควรส่งต่อไปยังหน้าอื่นๆที่เป็นบทความที่คัดลอกมา
หากต้องการเพิ่มลิงค์ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น คุณอาจจะเพิ่มลิงค์เข้า 48 สารบัญเว็บของ ThaiGetLink ดูรายละเอียดได้ที่ www.thaigetlink.com โดยใช้เทคนิคลิงค์ง่ายๆดังนี้ นำ URL ของหน้าบทความที่ต้องการจะโปรโมทมาใช้ในการเพิ่มลิงค์แทนหน้าแรก แต่ให้มีลิงค์เชื่อมโยงจากหน้าบทความไปสู่หน้าแรกได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้บทความของคุณมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น และจะทำให้โดเมนหลักได้ผลประโยชน์ในเรื่องของการทำ seo ไปด้วย
และทั้งหมดนี้เราจะเห็นได้ว่า google ได้พยายามที่จะปรับเปลี่ยนเครื่องมือค้นหาเพื่อให้ผู้ชมได้รับข้อมูลที่มี ประโยชน์อย่างแท้จริง หากเราสร้างเว็บไซต์ขึ้นมาโดยมีเนื้อหาที่มีความจริงใจต่อผู้ชมแล้ว ไม่ว่า google จะเปลี่ยนแปลง Algorithm ไปสักเพียงใด ผลกระทบก็จะไม่เกิดขึ้นกับเว็บไซต์ของคุณมากเท่ากับการปั่นเว็บออกมามากๆโดย มุ่งเน้นแต่ผลประโยชน์ สุดท้ายแล้วก็ไม่ต่างอะไรจากการเป็นเว็บขยะในสายตาของ google นั่นเอง
เขียนโดย คุณ ทวีชัย
โสภาวชิราดุสิตา ทีมงาน ThaiGetLink.com
ป้ายกำกับ:
Google Panda คืออะไร
10อันดับยอดแย่ของสมาร์ทโฟน
10 อันดับยอดแย่ของสมาร์ทโฟน
10.อายุการใช้งานหลังหลุดออกจากปลั๊กไฟ
เมื่อ คุณใช้อุปกรณ์อะไรบางอย่างที่กินไฟจากแบตเตอรี่ สุดท้ายก็ต้องเจอปัญหาแบตฯหมด หลายครั้งหลายคราที่อุปกรณ์ในมือ (โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน) มักหมดไฟก่อนเวลาอันควร แตกต่างจากในยุคที่ฟีเจอร์โฟนครองเมืองลิบลับที่เราทิ้งโทรศัพท์ไว้หลายวัน โดยไม่ต้องชาร์จได้
การแก้ปัญหาทำได้ 2 วิธี วิธีแรกคือปรับแต่งการทำงาน หากเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ผู้ใช้ควรลดความสว่างของหน้าจอให้ลงมาอยู่ที่ประมาณ 10%, พยายามเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไวไฟทุกครั้งที่มีโอกาส (เพราะกินไฟน้อยกว่าการใช้ 3G), ปรับแต่งหรือถอนการติดตั้งแอปที่ใช้ข้อมูลมาก ๆ (ทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ก) และไม่ทิ้งสมาร์ทโฟนไว้ในที่อุณหภูมิสูง ส่วนผู้ใช้ไอโฟนก็ควรปิดฟังก์ชั่นเตือนอีเมล์ใหม่, ปิดโลเกชั่นเบสเซอร์วิส, ปิดการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชั่นที่ไม่จำเป็น, ปิดแอปในแถบมัลติแทสกิ้งที่ไม่ได้ใช้งาน พร้อมกับเตรียมแบตเตอรี่สำรองไว้ด้วย และอีกวิธีหนึ่งคือพยายามชาร์จไฟทุกครั้งที่มีโอกาส ด้วยการเตรียมปลั๊กและสายชาร์จติดตัวไว้เสมอ
9.ไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพิมพ์
เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของสมาร์ทโฟนโดยตรง ทั้งผู้ผลิตก็พยายามอย่างมากที่จะแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีต่าง ๆ
ต้น เหตุของปัญหามาจากขนาดของแป้นพิมพ์เสมือนในสมาร์ทโฟนที่เล็กเกินไป (ผนวกกับฟังก์ชั่นช่วยแก้คำผิดที่ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก) วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือฝึกฝนทักษะการพิมพ์ของคุณให้ดีขึ้นด้วยการพิมพ์บ่อย ๆ, ใช้นิ้วเพียง 1-2 นิ้วในการพิมพ์ และค้นหาท่าถือสมาร์ทโฟนที่ถนัดที่สุด สำหรับเจ้าของแอนดรอยด์สมาร์ทโฟนยังดาวน์โหลด
แป้นพิมพ์เสมือนรูปแบบอื่น ๆ ที่อาจใช้งานได้ถนัดมากกว่ามาติดตั้งไว้ในโทรศัพท์ได้
8.ให้ผู้ใช้มีอำนาจในการควบคุมโทรศัพท์มือถือ
ทั้งสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และไอโอเอสมักมาพร้อมแอปพลิเคชั่นพื้นฐานที่ไม่จำเป็นบางตัว เช่น แอปพลิเคชั่น
สำหรับ ใช้ชมภาพยนตร์นามว่า "Blockbuster" สำหรับแอนดรอยด์ที่ทำงานไม่ค่อยได้เรื่อง แต่ผู้ใช้ไม่สามารถถอนการติดตั้งแอปนี้ได้ หรือไอโฟนที่มาพร้อมแอปแผนที่ของตนเอง ซึ่งไม่ค่อยได้เรื่องอีกเช่นกัน แทนที่จะให้เจ้าของโทรศัพท์ใช้ Google Maps เหมือนเดิม เป็นต้น
น่าเสียดายที่แบรนด์ผู้ผลิตไม่เคยคิดแก้ปัญหานี้ และมีแต่จะกีดกันให้เจ้าของเครื่องควบคุมสมาร์ทโฟนของตนได้ยากขึ้น
ดัง นั้นวิธีแก้ปัญหากรณีที่ต้องการลบแอปพื้นฐานที่ไม่ต้องการ จึงมีแค่การรูต (สำหรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์) และเจลเบรกสำหรับไอโอเอส) หรือปลดล็อกโทรศัพท์อย่างไม่เป็นทางการด้วยตนเองเท่านั้น
7.ไร้ซึ่งความทนทาน
ยัง จำวันเวลาเก่า ๆ ที่โทรศัพท์มือถือโนเกียยังใช้งานได้ แม้จะทำตก กระแทก หรือโดนน้ำหลายต่อหลายครั้งได้หรือไม่ ดูเหมือนวันเวลาเหล่านั้นจะล่วงเลยมาตั้งแต่เข้าสู่ยุคของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ เนื่องจากโทรศัพท์ทุกวันนี้ช่างบอบบาง ประหนึ่งว่าสามารถทำหน้าจอแตกได้
ด้วยการสะกิดแรง ๆ เท่านั้น ฝุ่นเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้ปุ่มบนสมาร์ทโฟนไม่ตอบสนอง หรือทำให้ฝาครอบแบตเตอรี่เป็นรอยได้
วิธีแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างง่ายคือ
เปลี่ยน แผงหน้าจอสมาร์ทโฟนใหม่หากของเก่ามีรอยแตก กรณีปุ่มกดมีปัญหาก็ให้ดาวน์โหลดแอปที่สร้างปุ่มเสมือนขึ้นมาบนหน้าจอทัช สกรีน หากเป็นไอโฟนก็แค่เข้าไปตั้งค่าและเปิดฟังก์ชั่น AssistiveTouch ที่สำคัญอย่าลืมหาเคสดี ๆ มาสวมทับ
6.ถ่ายรูปไม่ได้เรื่อง
ปัญหา นี้ค่อย ๆ ทุเลาลง เนื่องจากคุณภาพกล้องที่ดีขึ้น แม้กระนั้นกล้องสมาร์ทโฟนก็ยังมีคุณภาพห่างไกลกล้องถ่ายรูปดี ๆ ทั่วไป โชคยังดีที่แม้สมาร์ทโฟนจะถ่ายรูปออกมาไม่งดงามทุกครั้งที่กดชัตเตอร์
แต่ มีหลายอย่างที่สามารถทำให้ภาพออกมาดูดีที่สุดได้ด้วยการเรียนรู้หลักการถ่าย รูปเบื้องต้น, ใช้แสงในฉากให้เป็นประโยชน์, ทำความสะอาดเลนส์สมาร์ทโฟนบ่อย ๆ, หลีกเลี่ยงการซูม, ตั้งค่าแอปถ่ายภาพให้มีความละเอียดสูงสุด, ปรับแต่งสีของภาพนั้น และที่สำคัญอย่าตั้งความหวังสูงเกินไปว่ากล้องโทรศัพท์จะถ่ายออกมาได้สวยงาม ระดับเอสแอลอาร์
5.ทำให้เสียสมาธิ
การมีโทรศัพท์ที่ใช้อ่านอี เมล์, เล่นเน็ต ครบครันไปด้วยสื่อบันเทิงเป็นเรื่องที่ดี ปัญหาที่ตามมาคือทำให้วอกแวกตลอดเวลาในยามขับรถ ทั้งมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนน้อยลง ทำให้คนรอบตัวเกิดความรำคาญ การจะแก้ปัญหานี้ไม่ได้หมายความว่าต้องเลิกใช้ แค่เปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ตั้งกฎกับตนเอง, ปิดแอปพลิเคชั่นที่เรียกร้องความสนใจยามขับรถ, ไม่ต้องตอบข้อความ
สนทนาในโทรศัพท์ทุกครั้ง และวางสมาร์ทโฟนไว้ไกล ๆ ตัวบ้าง
4.ตกรุ่นเร็วเกินไป
สิ่ง ที่น่าพิศวงงงงวยอย่างมากในยุคนี้ คือ โทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ ตกรุ่นเร็วกว่าที่คาดคิด ปัจจุบันไอโฟน รุ่น 4 ไม่สามารถใช้แอปพลิเคชั่นนำทาง Apple Maps ได้อีกแล้ว ทั้งแอนดรอยด์รุ่นที่อายุเกิน 2 ปี ก็อย่าหวังว่าจะอัพเกรดระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง Jelly Bean หรือ Ice Cream Sandwich ได้
สำหรับปัญหาเรื่องที่เครื่องไม่สามารถใช้แอปพลิเคชั่น หรือระบบปฏิบัติการใหม่ แก้ไขได้ด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นบางตัวมาใช้ แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนบ่อย ๆ ก็ควรพกข้อมูลสำคัญติดตัวตลอดเวลา ทั้งต้องเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย และสำรองข้อมูลใหม่ ๆ ไว้เสมอ
นอกจาก นี้อย่าเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมแพ็กเกจลดราคาเครื่อง แต่ติดสัญญาการใช้บริการ ที่สำคัญพยายามรักษาสมาร์ทโฟนให้มีสภาพดีอยู่เสมอ และเก็บกล่องพร้อมคู่มือให้ครบ เพราะจะทำให้สมาร์ทโฟนมีราคาดีเมื่อปล่อยขายเครื่องมือสอง และพึงระลึกไว้เสมอว่าหากยังพอใจสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าก็ใช้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่จนกว่าจะพัง
3.พรากความสงบไปจากชีวิต
ตั้งแต่ คุณแกะสมาร์ทโฟนออกจากกล่อง เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้จะเรียกร้องความสนใจจากคุณตลอดเวลา อย่างดีที่สุดคือแค่ทำให้รำคาญ แต่ที่แย่ที่สุดคือทำให้เสียการเสียงาน วิธีแก้ง่าย ๆ คือปิดเสียงสมาร์ทโฟน แต่ทางที่ดีควรเข้าไปปรับแต่งการแจ้งเตือนแอปด้วยการจัดลำดับความสำคัญของแอ ป แอปตัวใดไม่จำเป็นก็ปิดการแจ้งเตือนไป และพยายามตั้งเสียงการแจ้งเตือนของแอปที่สำคัญแต่ละตัวให้
ต่างออกไป เพื่อที่จะได้รู้ว่ามีอะไรใหม่เข้ามาจำเป็นต้องเปิดดูหรือไม่ แค่นี้ก็มีพื้นที่ส่วนตัวให้พักหายใจมากขึ้น
2.เปลือง
การ เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนสักเครื่องนอกจากต้องจ่ายค่าเครื่องที่ค่อนข้างแพงแล้ว ยังมีค่าบริการรายเดือนที่อาจดูดเงินจากกระเป๋าเร็วกว่าที่คาดคิด
เคล็ด ลับง่าย ๆ ที่โอเปอเรเตอร์ไม่อยากบอกในการลดค่าบริการไม่ให้สูงติดเพดานบิน คือ พยายามใช้เซอร์วิสการโทร.ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต Google Voice หรือ VOIP (Voice Over Internet Protocol) รูปแบบอื่น ๆ มากขึ้น, ลดการใช้ดาต้าและคอยตรวจสอบว่าปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตเกินกำหนดหรือไม่ หากต้องการประหยัดเงินก็ใช้วิธีเปลี่ยนไปใช้บริการแพ็กเกจพรีเพดแทนรายเดือน จะดีกว่า
1.ทำหน้าที่เป็นโทรศัพท์ได้ยอดแย่
ปัญหาที่น่าตกใจมากที่สุดของสมาร์ทโฟน คือการทำหน้าที่เป็นโทรศัพท์นั่นเอง
จากการสำรวจของ "ไลฟ์แฮกเกอร์" ที่ว่า เรื่องใดของสมาร์ทโฟนที่กวนใจมากที่สุด หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่พบคือ อาการสายหลุด
ระหว่าง คุย โดยเจ้าของเครื่องแก้ปัญหานี้ได้ด้วยตนเอง เช่น ใช้การเชื่อมต่อแบบไวไฟในการโทรศัพท์ หรือ VOIP แทนการใช้บริการบนโทรศัพท์มือถือ (ซึ่งประหยัดเงินให้คุณด้วย) เป็นต้น
อย่าง ไรก็ตามทางแก้ที่ดีที่สุดคือ หาทางปรับแต่งเสาสัญญาณในโทรศัพท์ ได้แก่ ไปอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณชัดเจนในยามโทรศัพท์ และไม่เคลื่อนตัวออกจากบริเวณนั้น, พยายามวางสมาร์ทโฟนไว้ในที่ที่มีสัญญาณ และใช้บลูทูทคุยโทรศัพท์แทน, ติดตั้งเสาอากาศเสริมหรือเชื่อมต่อกับเครื่องช่วยรับสัญญาณ (ซึ่งราคาค่อนข้างสูง) หรืออาจพกโทรศัพท์รุ่นเก่าอีกเครื่องสำหรับโทร.ออก และรับสายแทน เป็นต้น
อีกทางแก้ที่ดีคือมีสายโทรศัพท์สำรองไว้อีก สาย ไม่ว่าจะเป็นแบบแลนด์ไลน์, VOIP บนคอมพิวเตอร์หรือบนโทรศัพท์ก็ตาม เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะสามารถติดต่อได้ในทุกสถานการณ์
คัดลอกจาก http://www.prachachat.net
10.อายุการใช้งานหลังหลุดออกจากปลั๊กไฟ
เมื่อ คุณใช้อุปกรณ์อะไรบางอย่างที่กินไฟจากแบตเตอรี่ สุดท้ายก็ต้องเจอปัญหาแบตฯหมด หลายครั้งหลายคราที่อุปกรณ์ในมือ (โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน) มักหมดไฟก่อนเวลาอันควร แตกต่างจากในยุคที่ฟีเจอร์โฟนครองเมืองลิบลับที่เราทิ้งโทรศัพท์ไว้หลายวัน โดยไม่ต้องชาร์จได้
การแก้ปัญหาทำได้ 2 วิธี วิธีแรกคือปรับแต่งการทำงาน หากเป็นสมาร์ทโฟนที่รองรับระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ผู้ใช้ควรลดความสว่างของหน้าจอให้ลงมาอยู่ที่ประมาณ 10%, พยายามเชื่อมต่อผ่านเครือข่ายไวไฟทุกครั้งที่มีโอกาส (เพราะกินไฟน้อยกว่าการใช้ 3G), ปรับแต่งหรือถอนการติดตั้งแอปที่ใช้ข้อมูลมาก ๆ (ทวิตเตอร์, เฟซบุ๊ก) และไม่ทิ้งสมาร์ทโฟนไว้ในที่อุณหภูมิสูง ส่วนผู้ใช้ไอโฟนก็ควรปิดฟังก์ชั่นเตือนอีเมล์ใหม่, ปิดโลเกชั่นเบสเซอร์วิส, ปิดการแจ้งเตือนของแอปพลิเคชั่นที่ไม่จำเป็น, ปิดแอปในแถบมัลติแทสกิ้งที่ไม่ได้ใช้งาน พร้อมกับเตรียมแบตเตอรี่สำรองไว้ด้วย และอีกวิธีหนึ่งคือพยายามชาร์จไฟทุกครั้งที่มีโอกาส ด้วยการเตรียมปลั๊กและสายชาร์จติดตัวไว้เสมอ
9.ไม่เข้าใจสิ่งที่คุณพิมพ์
เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของสมาร์ทโฟนโดยตรง ทั้งผู้ผลิตก็พยายามอย่างมากที่จะแก้ปัญหานี้ด้วยวิธีต่าง ๆ
ต้น เหตุของปัญหามาจากขนาดของแป้นพิมพ์เสมือนในสมาร์ทโฟนที่เล็กเกินไป (ผนวกกับฟังก์ชั่นช่วยแก้คำผิดที่ยิ่งทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงไปอีก) วิธีแก้ไขที่ดีที่สุดคือฝึกฝนทักษะการพิมพ์ของคุณให้ดีขึ้นด้วยการพิมพ์บ่อย ๆ, ใช้นิ้วเพียง 1-2 นิ้วในการพิมพ์ และค้นหาท่าถือสมาร์ทโฟนที่ถนัดที่สุด สำหรับเจ้าของแอนดรอยด์สมาร์ทโฟนยังดาวน์โหลด
แป้นพิมพ์เสมือนรูปแบบอื่น ๆ ที่อาจใช้งานได้ถนัดมากกว่ามาติดตั้งไว้ในโทรศัพท์ได้
8.ให้ผู้ใช้มีอำนาจในการควบคุมโทรศัพท์มือถือ
ทั้งสมาร์ทโฟนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์และไอโอเอสมักมาพร้อมแอปพลิเคชั่นพื้นฐานที่ไม่จำเป็นบางตัว เช่น แอปพลิเคชั่น
สำหรับ ใช้ชมภาพยนตร์นามว่า "Blockbuster" สำหรับแอนดรอยด์ที่ทำงานไม่ค่อยได้เรื่อง แต่ผู้ใช้ไม่สามารถถอนการติดตั้งแอปนี้ได้ หรือไอโฟนที่มาพร้อมแอปแผนที่ของตนเอง ซึ่งไม่ค่อยได้เรื่องอีกเช่นกัน แทนที่จะให้เจ้าของโทรศัพท์ใช้ Google Maps เหมือนเดิม เป็นต้น
น่าเสียดายที่แบรนด์ผู้ผลิตไม่เคยคิดแก้ปัญหานี้ และมีแต่จะกีดกันให้เจ้าของเครื่องควบคุมสมาร์ทโฟนของตนได้ยากขึ้น
ดัง นั้นวิธีแก้ปัญหากรณีที่ต้องการลบแอปพื้นฐานที่ไม่ต้องการ จึงมีแค่การรูต (สำหรับสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์) และเจลเบรกสำหรับไอโอเอส) หรือปลดล็อกโทรศัพท์อย่างไม่เป็นทางการด้วยตนเองเท่านั้น
7.ไร้ซึ่งความทนทาน
ยัง จำวันเวลาเก่า ๆ ที่โทรศัพท์มือถือโนเกียยังใช้งานได้ แม้จะทำตก กระแทก หรือโดนน้ำหลายต่อหลายครั้งได้หรือไม่ ดูเหมือนวันเวลาเหล่านั้นจะล่วงเลยมาตั้งแต่เข้าสู่ยุคของสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ ๆ เนื่องจากโทรศัพท์ทุกวันนี้ช่างบอบบาง ประหนึ่งว่าสามารถทำหน้าจอแตกได้
ด้วยการสะกิดแรง ๆ เท่านั้น ฝุ่นเพียงเล็กน้อยก็อาจทำให้ปุ่มบนสมาร์ทโฟนไม่ตอบสนอง หรือทำให้ฝาครอบแบตเตอรี่เป็นรอยได้
วิธีแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างง่ายคือ
เปลี่ยน แผงหน้าจอสมาร์ทโฟนใหม่หากของเก่ามีรอยแตก กรณีปุ่มกดมีปัญหาก็ให้ดาวน์โหลดแอปที่สร้างปุ่มเสมือนขึ้นมาบนหน้าจอทัช สกรีน หากเป็นไอโฟนก็แค่เข้าไปตั้งค่าและเปิดฟังก์ชั่น AssistiveTouch ที่สำคัญอย่าลืมหาเคสดี ๆ มาสวมทับ
6.ถ่ายรูปไม่ได้เรื่อง
ปัญหา นี้ค่อย ๆ ทุเลาลง เนื่องจากคุณภาพกล้องที่ดีขึ้น แม้กระนั้นกล้องสมาร์ทโฟนก็ยังมีคุณภาพห่างไกลกล้องถ่ายรูปดี ๆ ทั่วไป โชคยังดีที่แม้สมาร์ทโฟนจะถ่ายรูปออกมาไม่งดงามทุกครั้งที่กดชัตเตอร์
แต่ มีหลายอย่างที่สามารถทำให้ภาพออกมาดูดีที่สุดได้ด้วยการเรียนรู้หลักการถ่าย รูปเบื้องต้น, ใช้แสงในฉากให้เป็นประโยชน์, ทำความสะอาดเลนส์สมาร์ทโฟนบ่อย ๆ, หลีกเลี่ยงการซูม, ตั้งค่าแอปถ่ายภาพให้มีความละเอียดสูงสุด, ปรับแต่งสีของภาพนั้น และที่สำคัญอย่าตั้งความหวังสูงเกินไปว่ากล้องโทรศัพท์จะถ่ายออกมาได้สวยงาม ระดับเอสแอลอาร์
5.ทำให้เสียสมาธิ
การมีโทรศัพท์ที่ใช้อ่านอี เมล์, เล่นเน็ต ครบครันไปด้วยสื่อบันเทิงเป็นเรื่องที่ดี ปัญหาที่ตามมาคือทำให้วอกแวกตลอดเวลาในยามขับรถ ทั้งมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนน้อยลง ทำให้คนรอบตัวเกิดความรำคาญ การจะแก้ปัญหานี้ไม่ได้หมายความว่าต้องเลิกใช้ แค่เปลี่ยนพฤติกรรม เช่น ตั้งกฎกับตนเอง, ปิดแอปพลิเคชั่นที่เรียกร้องความสนใจยามขับรถ, ไม่ต้องตอบข้อความ
สนทนาในโทรศัพท์ทุกครั้ง และวางสมาร์ทโฟนไว้ไกล ๆ ตัวบ้าง
4.ตกรุ่นเร็วเกินไป
สิ่ง ที่น่าพิศวงงงงวยอย่างมากในยุคนี้ คือ โทรศัพท์รุ่นใหม่ ๆ ตกรุ่นเร็วกว่าที่คาดคิด ปัจจุบันไอโฟน รุ่น 4 ไม่สามารถใช้แอปพลิเคชั่นนำทาง Apple Maps ได้อีกแล้ว ทั้งแอนดรอยด์รุ่นที่อายุเกิน 2 ปี ก็อย่าหวังว่าจะอัพเกรดระบบปฏิบัติการใหม่อย่าง Jelly Bean หรือ Ice Cream Sandwich ได้
สำหรับปัญหาเรื่องที่เครื่องไม่สามารถใช้แอปพลิเคชั่น หรือระบบปฏิบัติการใหม่ แก้ไขได้ด้วยการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นบางตัวมาใช้ แต่ถ้าต้องการเปลี่ยนสมาร์ทโฟนบ่อย ๆ ก็ควรพกข้อมูลสำคัญติดตัวตลอดเวลา ทั้งต้องเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย และสำรองข้อมูลใหม่ ๆ ไว้เสมอ
นอกจาก นี้อย่าเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่มาพร้อมแพ็กเกจลดราคาเครื่อง แต่ติดสัญญาการใช้บริการ ที่สำคัญพยายามรักษาสมาร์ทโฟนให้มีสภาพดีอยู่เสมอ และเก็บกล่องพร้อมคู่มือให้ครบ เพราะจะทำให้สมาร์ทโฟนมีราคาดีเมื่อปล่อยขายเครื่องมือสอง และพึงระลึกไว้เสมอว่าหากยังพอใจสมาร์ทโฟนรุ่นเก่าก็ใช้ไปเรื่อย ๆ โดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่จนกว่าจะพัง
3.พรากความสงบไปจากชีวิต
ตั้งแต่ คุณแกะสมาร์ทโฟนออกจากกล่อง เจ้าอุปกรณ์ตัวนี้จะเรียกร้องความสนใจจากคุณตลอดเวลา อย่างดีที่สุดคือแค่ทำให้รำคาญ แต่ที่แย่ที่สุดคือทำให้เสียการเสียงาน วิธีแก้ง่าย ๆ คือปิดเสียงสมาร์ทโฟน แต่ทางที่ดีควรเข้าไปปรับแต่งการแจ้งเตือนแอปด้วยการจัดลำดับความสำคัญของแอ ป แอปตัวใดไม่จำเป็นก็ปิดการแจ้งเตือนไป และพยายามตั้งเสียงการแจ้งเตือนของแอปที่สำคัญแต่ละตัวให้
ต่างออกไป เพื่อที่จะได้รู้ว่ามีอะไรใหม่เข้ามาจำเป็นต้องเปิดดูหรือไม่ แค่นี้ก็มีพื้นที่ส่วนตัวให้พักหายใจมากขึ้น
2.เปลือง
การ เป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนสักเครื่องนอกจากต้องจ่ายค่าเครื่องที่ค่อนข้างแพงแล้ว ยังมีค่าบริการรายเดือนที่อาจดูดเงินจากกระเป๋าเร็วกว่าที่คาดคิด
เคล็ด ลับง่าย ๆ ที่โอเปอเรเตอร์ไม่อยากบอกในการลดค่าบริการไม่ให้สูงติดเพดานบิน คือ พยายามใช้เซอร์วิสการโทร.ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต Google Voice หรือ VOIP (Voice Over Internet Protocol) รูปแบบอื่น ๆ มากขึ้น, ลดการใช้ดาต้าและคอยตรวจสอบว่าปริมาณการใช้อินเทอร์เน็ตเกินกำหนดหรือไม่ หากต้องการประหยัดเงินก็ใช้วิธีเปลี่ยนไปใช้บริการแพ็กเกจพรีเพดแทนรายเดือน จะดีกว่า
1.ทำหน้าที่เป็นโทรศัพท์ได้ยอดแย่
ปัญหาที่น่าตกใจมากที่สุดของสมาร์ทโฟน คือการทำหน้าที่เป็นโทรศัพท์นั่นเอง
จากการสำรวจของ "ไลฟ์แฮกเกอร์" ที่ว่า เรื่องใดของสมาร์ทโฟนที่กวนใจมากที่สุด หนึ่งในปัญหาใหญ่ที่พบคือ อาการสายหลุด
ระหว่าง คุย โดยเจ้าของเครื่องแก้ปัญหานี้ได้ด้วยตนเอง เช่น ใช้การเชื่อมต่อแบบไวไฟในการโทรศัพท์ หรือ VOIP แทนการใช้บริการบนโทรศัพท์มือถือ (ซึ่งประหยัดเงินให้คุณด้วย) เป็นต้น
อย่าง ไรก็ตามทางแก้ที่ดีที่สุดคือ หาทางปรับแต่งเสาสัญญาณในโทรศัพท์ ได้แก่ ไปอยู่ในพื้นที่ที่มีสัญญาณชัดเจนในยามโทรศัพท์ และไม่เคลื่อนตัวออกจากบริเวณนั้น, พยายามวางสมาร์ทโฟนไว้ในที่ที่มีสัญญาณ และใช้บลูทูทคุยโทรศัพท์แทน, ติดตั้งเสาอากาศเสริมหรือเชื่อมต่อกับเครื่องช่วยรับสัญญาณ (ซึ่งราคาค่อนข้างสูง) หรืออาจพกโทรศัพท์รุ่นเก่าอีกเครื่องสำหรับโทร.ออก และรับสายแทน เป็นต้น
อีกทางแก้ที่ดีคือมีสายโทรศัพท์สำรองไว้อีก สาย ไม่ว่าจะเป็นแบบแลนด์ไลน์, VOIP บนคอมพิวเตอร์หรือบนโทรศัพท์ก็ตาม เพื่อให้แน่ใจได้ว่าจะสามารถติดต่อได้ในทุกสถานการณ์
คัดลอกจาก http://www.prachachat.net
การแก้ปัญหา Wi-Fi แท็บเล็ต BlackBerry® PlayBook
การแก้ปัญหา Wi-Fi และเครือข่ายใน BlackBerry PlayBook
ในการแก้ปัญหาการเชื่อมต่อ Wi-Fi® ในแท็บเล็ต BlackBerry® PlayBook™ โปรดดำเนินการต่อไปนี้
ปัญหาการตั้งค่า BlackBerry PlayBook:
- บนแถบสถานะ ให้แตะสัญลักษณ์แสดง Wi-Fi และตรวจสอบว่าตั้งค่าสวิตช์ไว้ที่ On (เปิด) แล้ว
- หาก BlackBerry PlayBook ไม่สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายที่บันทึกได้ โปรดดู KB27735
- ตรวจสอบว่าเวลาใน BlackBerry PlayBook ซิงโครไนซ์กับเวลาเครือข่ายแล้ว หากเวลาต่างกัน อาจทำให้ BlackBerry PlayBook ไม่สามารถเชื่อมต่อได้ (ตัวอย่างเช่น หากการเชื่อมต่อกับเครือข่ายต้องมีการติดตั้งใบรับรองใน BlackBerry PlayBook และใบรับรองมีวันหมดอายุ)
- ตรวจสอบว่าตัวเลือกสำหรับเครือข่าย Wi-Fi ถูกต้องแล้ว ในการค้นหาตัวเลือกที่จะใช้ สำหรับเครือข่ายในบ้าน ให้ดูข้อมูลที่มาพร้อมกับเราเตอร์ไร้สายที่ใช้ในบ้าน สำหรับเครือข่าย Wi-Fi ขององค์กร ให้ติดต่อผู้ดูแลระบบเครือข่ายขององค์กร สำหรับฮอตสปอตสาธารณะ ให้ดูข้อมูลที่ให้มาสำหรับฮอตสปอตนั้น หรือติดต่อพนักงานที่ฮอตสปอตซึ่งจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการเชื่อมต่อ
- หากสลับเครือข่าย Wi-Fi ด้วยตนเอง และไม่สามารถใช้งานได้ ให้ลองสลับไปยังเครือข่าย Wi-Fi อื่นด้วยตนเอง
- หากใช้ฮอตสปอตที่ต้องการชื่อผู้ใช้และรหัสผ่านหรือข้อมูลบัตรเครดิตในการให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต ให้ไปที่ KB26582และดู สาเหตุ 1
ปัญหาการล็อกอินเครือข่ายที่ไม่ถูกต้อง:
- ข้อความแสดงข้อผิดพลาด Unable to acquire an IP address. (ไม่สามารถรับ IP แอดเดรสได้) This may be due to an invalid password. (ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากใช้รหัสผ่านที่ไม่ถูกต้อง) จะปรากฏขึ้นเมื่อรหัสผ่านเครือข่ายไม่ถูกต้องในเครือข่าย WEP บรรทัด WPA: 4-Way Handshake failed (WPA: Handshake 4 ทิศทางล้มเหลว) จะปรากฏในบันทึก Wi-Fi ของ BlackBerry PlayBook เพื่อยืนยันว่ารหัสผ่านไม่ถูกต้อง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบันทึก Wi-Fi ได้ในส่วน ข้อมูลเพิ่มเติม
- ข้อความแสดงข้อผิดพลาด Failed to connect to the network. (ล้มเหลวในการเชื่อมต่อกับเครือข่าย) Please check your password and try again. (โปรดตรวจสอบรหัสผ่านของคุณ และลองอีกครั้ง) จะปรากฏขึ้นเมื่อรหัสผ่านเครือข่ายไม่ถูกต้องในเครือข่าย WPA บรรทัด WPA: 4-Way Handshake failed (WPA: Handshake 4 ทิศทางล้มเหลว) จะปรากฏในบันทึก Wi-Fi ของ BlackBerry PlayBook เพื่อยืนยันว่ารหัสผ่านไม่ถูกต้อง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบันทึก Wi-Fi ได้ในส่วน ข้อมูลเพิ่มเติม
- ข้อความแสดงข้อผิดพลาด Failed to connect to the network. (ล้มเหลวในการเชื่อมต่อกับเครือข่าย) จะปรากฏขึ้นเมื่อผู้ใช้หรือรหัสผ่านไม่ถูกต้องในเครือข่ายที่ใช้ WPA Enterprise หรือ WPA2 Enterprise บรรทัด EAP authentication started (การตรวจสอบสิทธิ์ EAP เริ่มต้นขึ้น) จะตามด้วยสองบรรทัด Disconnect event – remove keys (เหตุการณ์การยกเลิกการเชื่อมต่อ - ลบคีย์) เพื่อยืนยันว่าข้อมูลการล็อกอินไม่ถูกต้อง สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบันทึก Wi-Fi ได้ในส่วน ข้อมูลเพิ่มเติม
ปัญหาเกี่ยวกับเราเตอร์:
- การเชื่อมต่ออาจหมดเวลา ให้ลองเชื่อมต่ออีกครั้ง
- ความยาวรหัสผ่าน Wi-Fi ขั้นต่ำที่อนุญาตใน BlackBerry PlayBook คือ 8 ตัวอักษร จำนวนที่น้อยกว่า 8 จะทำให้ปุ่มเชื่อมต่อไม่ทำงาน
- BlackBerry PlayBook อาจอยู่ห่างจากจุดเชื่อมต่อแบบไร้สายหรือเราเตอร์ไร้สายที่เชื่อมต่อมากเกินไป ย้าย BlackBerry PlayBook ให้ใกล้มากยิ่งขึ้น และลองเชื่อมต่ออีกครั้ง
- ตรวจสอบว่า BlackBerry PlayBook อยู่ในพื้นที่ครอบคลุม Wi-Fi หากคุณกำลังเชื่อมต่อกับเครือข่ายในบ้าน ให้ตรวจสอบว่าอุปกรณ์ไร้สายอื่นๆ สามารถเชื่อมต่อได้หรือไม่ หากคุณกำลังเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ขององค์กรหรือฮอตสปอต ให้ติดต่อผู้ดูแลระบบเครือข่ายขององค์กร หรือพนักงานที่ฮอตสปอต
- หากไม่ปรากฏเครือข่าย Wi-Fi ในรายการของเครือข่ายที่พร้อมใช้งาน เครือข่ายนั้นอาจถูกซ่อนอยู่ หากรู้จักชื่อเครือข่าย ให้ลองเชื่อมต่อด้วยตนเอง
- เมื่อใช้วิธีการตั้งค่าปุ่ม Push ให้ตรวจสอบว่าจุดเชื่อมต่อเครือข่ายใช้ Wi-Fi Protected Setup™ และตั้งค่าให้ส่งโปรไฟล์ ตรวจสอบว่าอุปกรณ์อื่นไม่ได้กำลังเชื่อมต่อพร้อมกัน และมีจุดเชื่อมต่อเครือข่ายที่ใช้โหมดนี้เพียงจุดเดียวภายในช่วง สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดดูข้อมูลที่มาพร้อมกับเราเตอร์ไร้สาย
- หากมีการใช้ฟิลเตอร์/ไวท์ลิสต์ MAC รูปแบบใดๆ ในเครือข่าย Wi-Fi ให้ตรวจสอบว่าเพิ่ม MAC แอดเดรสของ PlayBook ในไวท์ลิสต์แล้ว MAC แอดเดรสจะได้มาจาก: Options (ตัวเลือก) -> About (เกี่ยวกับ) -> Network Information(ข้อมูลเครือข่าย)
- อาจต้องรีเซ็ตเราเตอร์ไร้สาย โปรดดูคู่มือผู้ใช้ของเราเตอร์ไร้สาย หากคุณกำลังเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ขององค์กรหรือฮอตสปอต ให้ติดต่อผู้ดูแลระบบเครือข่ายขององค์กร หรือพนักงานที่ฮอตสปอต หมายเหตุ: โปรดใช้ขั้นตอนนี้เป็นทางเลือกสุดท้าย เนื่องจากขั้นตอนนี้จะส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ทั้งหมดที่เชื่อมต่อกับเครือข่าย WI-Fi
ปัญหาเกี่ยวกับการเข้ารหัส:
หากใช้ PEAP, EAP-TLS, EAP-FAST หรือ EAP-TTLS เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ให้ตรวจสอบว่ามีการติดตั้งใบรับรองหลักสำหรับเซิร์ฟเวอร์หน่วยงานผู้ออกใบรับรองที่สร้างใบรับรองสำหรับเซิร์ฟเวอร์การตรวจสอบสิทธิ์แล้ว ต้องโอนใบรับรองไปยัง BlackBerry PlayBook ก่อนจึงจะสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อผู้ดูแลระบบเครือข่าย
ปัญหาเกี่ยวกับการเข้ารหัส
หากใช้ PEAP, EAP-TLS, EAP-FAST หรือ EAP-TTLS เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ให้ตรวจสอบว่ามีการติดตั้งใบรับรองหลักสำหรับเซิร์ฟเวอร์หน่วยงานผู้ออกใบรับรองที่สร้างใบรับรองสำหรับเซิร์ฟเวอร์การตรวจสอบสิทธิ์แล้ว ต้องโอนใบรับรองไปยัง BlackBerry PlayBook ก่อนจึงจะสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อผู้ดูแลระบบเครือข่าย
หากใช้ EAP-TLS เชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ให้ตรวจสอบว่าคุณได้เพิ่มใบรับรองการตรวจสอบสิทธิ์ใน BlackBerry PlayBook แล้ว ต้องโอนใบรับรองไปยัง BlackBerry PlayBook ก่อนจึงจะสามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้ สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อผู้ดูแลระบบเครือข่าย
หากเกิดปัญหาขณะเชื่อมต่อ BlackBerry PlayBook กับเครือข่าย Wi-Fi ครั้งแรก จะมีรายละเอียดที่สามารถเข้าใช้ใน BlackBerry PlayBook ได้ ซึ่งจะช่วยฝ่ายสนับสนุนทางด้านเทคนิคของ BlackBerry วินิจฉัยปัญหาได้ นอกจากนี้ ยังมีเครื่องมือเครือข่ายทั่วไปสำหรับแก้ปัญหาการเชื่อมต่อเครือข่ายซึ่งเป็นปัญหาส่วนใหญ่ที่พบ เครื่องมือเหล่านี้และตำแหน่งที่ตั้งจะขยายขึ้นเมื่อดำเนินการด้านล่าง
การเข้าถึงเครื่องมือระหว่างการตั้งค่าครั้งแรก หากมีปัญหาในการเชื่อมต่อกับเครือข่าย Wi-Fi ให้คลิกไอคอน Settings (การตั้งค่า) ที่ด้านล่างซ้ายของหน้าจอเพื่อเข้าถึงเครื่องมือการวินิจฉัย
เมื่ออยู่ในเมนูนี้ ให้คลิกรายการดรอปดาวน์ด้านขวาของครึ่งหน้าจอ
หลังจากการตั้งค่าครั้งแรก สามารถเข้าถึงตัวเลือกเหล่านี้ได้โดยทำตามขั้นตอนต่อไปนี้:
- คลิกไอคอน Settings (การตั้งค่า) ที่มุมบนขวาของหน้าจอหลัก
- เลือก Wi-Fi จากเมนูนาวิเกตที่ปรากฏบนช่องด้านซ้าย
- ที่ด้านล่างซ้ายของช่องด้านขวา เลือกไอคอนสัญลักษณ์ Wi-Fi ที่มีเครื่องหมายคำถาม
หมายเหตุ: รายชื่อเครื่องมือจำนวนมากกว่านี้จะแสดงในรายการดรอปดาวน์หลังจากการตั้งค่าครั้งแรก
เครื่องมือทั้งหมดนี้จะมีคำอธิบายรายละเอียดด้านล่าง
เครื่องสำหรับแก้ปัญหา Wi-Fi
Wi-Fi Information (ข้อมูล Wi-Fi) - เครื่องมือนี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Wi-Fi เช่น SSID, Channel ฯลฯ หากการเชื่อมโยงกับฮอตสปอต Wi-Fi ล้มเหลว จะแสดงในส่วน Failure Reason (เหตุผลของความล้มเหลว) ของเครื่องมือนี้
Wi-Fi Information (ข้อมูล Wi-Fi) - เครื่องมือนี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการเชื่อมต่อ Wi-Fi เช่น SSID, Channel ฯลฯ หากการเชื่อมโยงกับฮอตสปอต Wi-Fi ล้มเหลว จะแสดงในส่วน Failure Reason (เหตุผลของความล้มเหลว) ของเครื่องมือนี้
หมายเหตุ: ฟิลด์ Failure Reason (เหตุผลของความล้มเหลว) จะใช้ได้เมื่อเข้าถึงตัวเลือกดรอปดาวน์นี้นอกเหนือจากการตั้งค่าครั้งแรกเท่านั้น สำหรับปัญหาในระหว่างการตั้งค่าครั้งแรก โปรดดูเครื่องมือ Logs (บันทึก)
Logs (บันทึก) - เครื่องมือให้คุณดูการบันทึกเกี่ยวกับการเชื่อมโยงกับกับการเชื่อมต่อ Wi-Fi ได้ การแตะบรรทัดใดบรรทัดหนึ่งจะแสดงข้อความข้อความแสดงข้อผิดพลาดทั้งข้อความ ข้อมูลนี้สามารถช่วยให้ผู้ดูแลระบบทราบสาเหตุของความล้มเหลวเมื่อพยายามเชื่อมต่อ BlackBerry PlayBook กับเครือข่ายองค์กร นอกจากนี้ ยังสามารถช่วยผู้ให้บริการ Wi-Fi ทราบสาเหตุของความล้มเหลวจากเครือข่ายในบ้าน หรือฮอตสปอตสาธารณะ
เครื่องมือสำหรับแก้ปัญหาเครือข่าย
การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต - นี่ไม่ใช่เครื่องมือที่สามารถนำไปใช้ดำเนินการหรือตรวจสอบ แต่ระบุข้อมูลเกี่ยวกับการเชื่อมต่อเครือข่าย รวมทั้ง IP แอดเดรสที่กำหนดให้ BlackBerry PlayBook, ซับเน็ต, เกตเวย์ และเซิร์ฟเวอร์ DNS
Ping - ในการตั้งค่าครั้งแรก เครื่องมือนี้จะช่วยให้ BlackBerry PlayBook สามารถ Ping กับโฮสต์ หรือ IP แอดเดรสเพื่อทราบเวลาตอบสนองได้ เมื่อเข้าถึงเครื่องมือนี้จากตัวเลือก Settings (การตั้งค่า) > Wi-Fi, ตัวเลือก Ping ที่มีการกำหนดค่าล่วงหน้าเพิ่มเติมจะปรากฏขึ้น เช่น Ping Type (ประเภท Ping) ซึ่งมีรายการดรอปดาวน์ของตัวเลือก กล่าวคือ IP Address or Name (IP แอดเดรสหรือชื่อ) (ที่อยู่หรือ IP ที่ระบุ), Wi-Fi Gateway (เกตเวย์ Wi-Fi), (เกตเวย์เครือข่าย) หรือ Self (ตนเอง) (IP แอดเดรสของ BlackBerry PlayBook)
ข้อความ ping:sendto:No route to host (ping:sendto:ไม่มีเส้นทางไปโฮสต์) จะปรากฏขึ้นเมื่อไม่ได้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรือเมื่อ BlackBerry PlayBook ไม่สามารถเชื่อมต่อกับไซต์ได้
ข้อความ ping:Cannot resolve (ping:ไม่สามารถแก้ไข) จะปรากฏขึ้นเมื่อไม่ได้เชื่อมต่อกับ Wi-Fi หรือเมื่อ BlackBerry PlayBook ไม่สามารถแก้ไข IP แอดเดรสได้ เมื่อข้อความนี้ปรากฏขึ้น ให้ใช้เครื่องมือ DNS Lookup เพื่อยืนยันปัญหา
Traceroute (ติดตามเส้นทาง) - ป้อน IP แอดเดรสปลายทาง หรือแอดเดรสของชื่อโดเมนเพื่อให้ทราบจำนวน Hop ของเราเตอร์ที่คำขอต้องใช้เพื่อไปถึงแอดเดรสปลายทาง
Traceroute (ติดตามเส้นทาง) - ป้อน IP แอดเดรสปลายทาง หรือแอดเดรสของชื่อโดเมนเพื่อให้ทราบจำนวน Hop ของเราเตอร์ที่คำขอต้องใช้เพื่อไปถึงแอดเดรสปลายทาง
ใช้เครื่องมือนี้เพื่อกำหนดว่าการเชื่อมต่อไปยังไซต์เฉพาะขาดหายเนื่องจากไม่มีการเชื่อมต่อหรือส่วนของเส้นทางเครือข่ายลบข้อมูลทิ้ง
DNS Lookup (การค้นหา DNS) - ในการใช้เครื่องมือนี้ ให้พิมพ์แอดเดรส DNS หลักหรือรองในฟิลด์ Server (เซิร์ฟเวอร์) หลังจากดำเนินการนี้ ให้ป้อนชื่อโดเมนในฟิลด์ 'Host' (โฮสต์) แล้วคลิก Send (ส่ง) เพื่อยืนยันว่า BlackBerry PlayBook สามารถแปลงชื่อโดเมนเป็น IP แอดเดรสได้
หาก BlackBerry PlayBook ไม่สามารถแก้ไข IP แอดเดรสได้ ข้อความ connection timed out (การเชื่อมต่อหมดเวลา) จะปรากฏขึ้น ซึ่งหมายความว่า BlackBerry PlayBook ไม่ได้รับ IP แอดเดรสที่ถูกต้องของเซิร์ฟเวอร์ DNS จากเราเตอร์ ตรวจสอบว่าอุปกรณ์อื่นที่เชื่อมต่อกับเราเตอร์เดียวกันในสองสามนาทีที่ผ่านมามีปัญหาเดียวกันหรือไม่ รีบูตเราตอร์ ตรวจสอบว่าการตั้งค่า DNS ของเราเตอร์ถูกต้อง
ในการตรวจสอบการตั้งค่าเราเตอร์ ให้ค้นหา IP แอดเดรสของเราเตอร์บนคอมพิวเตอร์ที่ใช้ Windows โดยการใช้ IPConfig (IFConfig สำหรับ MAC) ดูขั้นตอนการใช้ IPConfig ได้ในKB27560 เมื่อเรียกใช้ IPConfig/IFConfig แล้ว แอดเดรสของGateway (เกตเวย์) จะเป็น IP แอดเดรสของเราเตอร์ ไปที่ IP แอดเดรสนี้แล้วล็อกอินโดยใช้หนังสือรับรองสำหรับเราเตอร์ หนังสือรับรองดีฟอลต์จะปรากฏในฉลากบนเครื่องเราเตอร์หรือบนเว็บไซต์ของผู้ผลิตเราเตอร์
หมายเหตุ: การเชื่อมต่อ Wi-Fi® ไม่สนับสนุนจุดเชื่อมต่อ Wi-Fi Alliance Draft11n ที่ตั้งค่าในโหมด 802.11n เท่านั้นโดยประกาศ TKIP หรือ WEP โปรดดู KB26522
ข้อมูลจาก http://btsc.webapps.blackberry.com
ป้ายกำกับ:
การแก้ปัญหาWi-Fi
HD Tablet
Kindle Fire HD Tablet
7" HD Display, Dolby Audio, Dual-Band Dual-Antenna Wi-Fi, 16GB or 32GB
World's most advanced 7" tablet
|
http://astore.amazon.com/a-storezone-20
|
ป้ายกำกับ:
Tablet
สร้าง web ด้วยตัวเอง
สร้าง web ด้วยตัวเอง
สำหรับเพื่อนๆ อีกหลายๆ คนที่ต้องการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง เพื่อทำการค้าขายบนอินเตอร์เน็ต หรือต้องการหารายได้พิเศษจากอินเตอร์เน็ตในรูปแบบต่างๆ หลายๆ คนท้อที่จะมีเว็บเป็นของตนเอง เพราะไม่ทราบรายละเอียดว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง แถมบางคนกลัวว่าจะทำไม่ได้ เพราะไม่มีความรู้เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เลย วันนี้ ผมมีคำแนะนำมาบอกกัน เพื่อให้ทราบว่า เว็บไซต์ทำง่าย ทำได้ทุกคน เพียงคุณแค่ใช้งานอินเตอร์เน็ตเป็น และมีความรู้พืนฐานคอมพิวเตอร์สักนิด..
ส่วนประกอบของเว็บไซต์ที่ต้องมี
- Domain Name - ชื่อเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น www.karn.tv เป็นต้น เราสามารถตั้งชื่ออะไรก็ได้ แต่จะให้ดีควรตั้งเป็นชื่อที่เกี่ยวกับของสินค้า หรือบริการของเราจะดีกว่า และไม่ควรความยาวมากนัก สำหรับราคาค่า Domain Name ไม่เกิน 400 บาทต่อชื่อเว็บไซต์ และที่สำคัญมากๆ ควรตอบสอบชื่อเว็บในการสั่งซื้อและแสดงความเป็นเจ้าของว่า เป็นชื่อของเราหรือไม่
- Web Hosting - พื้นที่ในการเก็บเว็บไซต์ หรือผลงานของเรา โดยปกติราคาจะขึ้นกับขนาดความจุของพื้นที่ที่เราต้องการ ซึ่งจะรวมกับขนาดของอีเมล์ด้วย ตัวอย่างเช่น ถ้าเราซื้อพื้นที่ Web Hosting 200 MB หมายความว่า เราจะได้รับพื้นที่ในการเก็บเว็บไซต์และอีเมล์รวมกันไม่เกิน 200 MB เป็นต้น สำหรับราคา Web Hosting อาจเริ่มต้นที่ 100 - 200 บาทต่อเดือนต่อพื้นที่ประมาณ 100-200 MB ทั้งนี้ขึ้นกับบริษัทที่ให้บริการ (ของถูกมากเกินไป ก็ควรระวังเรื่องบริการไว้ด้วยครับ) สรุปว่าซื้อ Web hosting จะได้ระบบอีเมล์ แถมมาให้ด้วย สะดวกมากๆ
- Web Design / Web Tools - การออกแบบเว็บไซต์ และเครื่องมือที่เราใช้ในการออกแบบเว็บ บางเว็บอาจต้องการระบบฐานข้อมูล เพื่อจัดเก็บ ดังนั้น การเลือก Web Hosting จะต้องมีการระบุว่าต้องการระบบฐานข้อมูลหรือไม่ (ราคาอาจมีความแตกต่างกันบ้าง) รายละเอียดเพิ่มเติม ให้ศึกษาในหัวข้อถัดๆ ไป
สำหรับมือใหม่ที่ต้องการมีเว็บไซต์เป็นของตนเอง
สำหรับเรื่องค่าใช้จ่ายนั้น ผมคิดว่าราคาเริ่มต้น สามารถกำหนดให้อยู่ได้ไม่เกิน 3,000 บาทต่อปี (ราคา Domain Name 600 บาทปีบวกกับค่า Web Hosting 200 บาทต่อเดือน x 12 เดือน = 2,400 บาท) สำหรับใครที่อยากได้ถูกกว่านี้ ก็สามารถหาเลือกซื้อได้ครับ แต่เรื่องคุณภาพคงต้องพิจารณากันมากหน่อยของฟรี เรื่องที่ต้องพิจารณาดีๆ
ส่วนเรื่องของ Domain Name หรือ Web Hosting ที่เขาแจกให้ใช้กันฟรีๆ สำหรับใครที่อยากจะทดลองใช้ ก็ไม่ว่ากัน แต่ถ้าตั้งใจจะทำจริงจังแล้ว แนะนำให้ลงทุนสักนิด เนื่องจากถ้าเว็บที่เราสร้างขึ้นมีจำนวนผู้ชมมากขึ้น และทำให้ server ที่เป็นที่ให้บริการให้เขามีปัญหาเรื่องความล่าช้า เว็บของคุณก็อาจมีปัญหาได้เช่นกัน คงต้องพิจารณาให้ดีๆจะได้ไม่เสียเวลาเริ่มต้นใหม่..เว็บสำเร็จรูป เรื่องที่ต้องคิดให้มากๆ
หลายๆ คนที่ใช้เว็บสำเร็จรูปว่าก่อนคงต้องพิจารณากันให้มากสักนิดก่อนว่า คุณจะยอมรับในข้อจำกัดเหล่านี้ได้หรือไม่- รูปแบบการออกแบบ อาจซ้ำกับอีกหลายๆ เว็บไซต์ เพราะเป็นรูปแบบสำเร็จรูป
- ความยืดหยุ่นต่ำ มีข้อจำกัดในการแก้ไข หรือการจัดวางภาพ เพราะอาจไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้
- อาจมีโฆษณาของเจ้าของเว็บแทรกเข้ามาในเว็บไซต์ของเรา
ข้อมูลจาก www.it-guides.com
ป้ายกำกับ:
อินเทอร์เน็ตและเว็บไซต์
การสั่งซื้อสินค้าจากAmazon
การสั่งซื้อสินค้าจากAmazon
ตอนแรกก็กรอก email address ของเราจริงๆ แล้วเลือก No, I am a new customer.
แล้วกดปุ่ม Sign in using our secure server ได้เลย
ใส่ชื่อจริงของเรา พิมพ์ email ซ้ำอีกรอบ แล้วก็ใส่รหัสผ่าน 2 ครั้ง แล้วกด Create
account เท่านี้เราก็มี account ของ amazon
ไว้สั่งของเป็นที่เรียบร้อย
หลังจากนี้พอเราไปที่ amazon.com โดยใช้คอมพิวเตอร์เครื่องที่เราสมัคร ระบบก็จะจำเราได้โดยอัตโนมัติ แต่ไม่ต้องตกใจ เวลาเราจะสั่งของ จะใส่ข้อมูลบัตรเครดิต amazon ก็จะถามรหัสผ่านของเราอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลของเรา
หลังจากนี้พอเราไปที่ amazon.com โดยใช้คอมพิวเตอร์เครื่องที่เราสมัคร ระบบก็จะจำเราได้โดยอัตโนมัติ แต่ไม่ต้องตกใจ เวลาเราจะสั่งของ จะใส่ข้อมูลบัตรเครดิต amazon ก็จะถามรหัสผ่านของเราอีกครั้ง เพื่อความปลอดภัยของข้อมูลของเรา
แถบด้านบนของ web amazon มีจุดที่น่าสนใจดังนี้
1) Today's Deals มีดีลประจำวันมาโพสใหม่ทุกวัน ปกติก็ประมาณ 14:00น เวลาเมืองไทย ส่วนช่วงหน้าหนาวก็ 15:00 น
2) Gift Card อันนี้ก็เอาไว้ซื้อบัตรของขวัญใช้แทนบัตรเครดิต มีประโยชน์มากๆ สำหรับพวก Digital Contents เช่น kindle book หรือ android app นะคะ เพราะบางครั้งใช้บัตรเครดิตเมืองไทยซื้อไม่ได้ หรือได้ราคาปกติ ไม่ได้ราคาส่วนลดหรือราคาฟรี (รายละเอียดดูได้ที่กระทู้ปักหมุดเกี่ยวกับฟรี Amazon app)
3) Cart ก็เป็นตะกร้าช๊อปปิ้งของเรา เดี๋ยวจะพูดถึงรายละเอียดอีกที
4) Your Account ก็จะเป็นข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ account ของเรา เดี๋ยวจะลงรายละเอียดอีกที
5) Help อันนี้ไว้ส่ง email คุยกับ Amazon หรือดูรายละเอียดต่างๆ เช่นอัตราค่าขนส่งเป็นต้น
ทีนี้เราจะใส่รายละเอียดที่อยู่ส่งของของเรานะครับ ให้คลิ๊ก Account แล้วก็ Manage Address Book บางที amazon ก็จะถามรหัสผ่านของเรา ก็ให้ใส่รหัสผ่าน แล้วกด Sign in using our secure server
กดปุ่ม Enter a new address ก็จะมีแบบฟอร์มให้เรากรอก ก็ใส่ที่อยู่ตามจริง เวลา amazon ส่งของมาให้เราจะได้ไม่ตกหล่นสูญหาย
1) Today's Deals มีดีลประจำวันมาโพสใหม่ทุกวัน ปกติก็ประมาณ 14:00น เวลาเมืองไทย ส่วนช่วงหน้าหนาวก็ 15:00 น
2) Gift Card อันนี้ก็เอาไว้ซื้อบัตรของขวัญใช้แทนบัตรเครดิต มีประโยชน์มากๆ สำหรับพวก Digital Contents เช่น kindle book หรือ android app นะคะ เพราะบางครั้งใช้บัตรเครดิตเมืองไทยซื้อไม่ได้ หรือได้ราคาปกติ ไม่ได้ราคาส่วนลดหรือราคาฟรี (รายละเอียดดูได้ที่กระทู้ปักหมุดเกี่ยวกับฟรี Amazon app)
3) Cart ก็เป็นตะกร้าช๊อปปิ้งของเรา เดี๋ยวจะพูดถึงรายละเอียดอีกที
4) Your Account ก็จะเป็นข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ account ของเรา เดี๋ยวจะลงรายละเอียดอีกที
5) Help อันนี้ไว้ส่ง email คุยกับ Amazon หรือดูรายละเอียดต่างๆ เช่นอัตราค่าขนส่งเป็นต้น
ทีนี้เราจะใส่รายละเอียดที่อยู่ส่งของของเรานะครับ ให้คลิ๊ก Account แล้วก็ Manage Address Book บางที amazon ก็จะถามรหัสผ่านของเรา ก็ให้ใส่รหัสผ่าน แล้วกด Sign in using our secure server
กดปุ่ม Enter a new address ก็จะมีแบบฟอร์มให้เรากรอก ก็ใส่ที่อยู่ตามจริง เวลา amazon ส่งของมาให้เราจะได้ไม่ตกหล่นสูญหาย
ข้างล่างก็จะมี 2 ปุ่มให้เลือกคือ Save & Add Payment Method
เพื่อบันทึกที่อยู่ของเราแล้วไปที่หน้าใส่ข้อมูลบัตรเครดิตที่จะผูกกับที่อยู่นี้
หรือ Save & Continue เพื่อบันทึกที่อยู่ของเรา
(กรณีเราเคยใส่ข้อมูลบัตรเครดิตไปแล้ว
หรือจะใส่ข้อมูลบัตรเครดิตทีหลัง)
ขอเลือกปุ่มแรก พอกดก็มีแบบฟอร์มให้เรากรอกรายละเอียดบัตรเครดิตของเรา ก็กรอกไปตามจริง
ขอเลือกปุ่มแรก พอกดก็มีแบบฟอร์มให้เรากรอกรายละเอียดบัตรเครดิตของเรา ก็กรอกไปตามจริง
ทีนี้ก็มาถึงที่อยู่ตามบัตรเครดิต
ถ้าเหมือนกับที่อยู่ส่งของที่เรากรอกรายละเอียดไปแล้ว ก็กดปุ่ม Use this address
ได้เลย ถ้าไม่เหมือนก็ใส่ที่อยู่ตามบัตรเครดิต แล้วกดปุ่ม Use this address
ด้านล่างสุด (คนละปุ่มกับปุ่มแรก)
ถ้าใส่รายละเอียดถูกต้อง ก็เป็นอันเรียบร้อย เริ่มต้นช๊อปปิ้งได้
แต่ถ้าใส่รายละเอียดไม่ถูกต้อง
ก็จะมีข้อความขึ้นมาเตือน
ต่อมาก็เริ่มเอาสินค้าใส่ตะกร้าได้เลย จริงๆ แล้ว เราอยากจะซื้ออะไร ก็ search ในช่องค้นหาแล้วหยิบใส่ตะกร้าได้เลย
Bluray 2 เรื่องนี้ใส่ตะกร้าดูนะคะ
http://www.amazon.com/gp/product/B0026L ... B0026L7H20
http://www.amazon.com/gp/product/B0052X ... B0052XI5SO
กด Add to cart ทั้ง 2 เรื่อง จะเห็นว่าแถบบนสุดของเราจำนวนสินค้าในตะกร้าเปลี่ยนจาก 0 เป็น 2 ลองกดเข้าไปดูกัน
ต่อมาก็เริ่มเอาสินค้าใส่ตะกร้าได้เลย จริงๆ แล้ว เราอยากจะซื้ออะไร ก็ search ในช่องค้นหาแล้วหยิบใส่ตะกร้าได้เลย
Bluray 2 เรื่องนี้ใส่ตะกร้าดูนะคะ
http://www.amazon.com/gp/product/B0026L ... B0026L7H20
http://www.amazon.com/gp/product/B0052X ... B0052XI5SO
กด Add to cart ทั้ง 2 เรื่อง จะเห็นว่าแถบบนสุดของเราจำนวนสินค้าในตะกร้าเปลี่ยนจาก 0 เป็น 2 ลองกดเข้าไปดูกัน
ถ้าเราพร้อมจะซื้อก็กดปุ่ม Proceed to checkout
ได้เลย
ถ้าเรายังไม่อยากจะซื้อตอนนี้ กด Save for later เพื่อเอาของพักแล้วนอกตะกร้าเราก่อน เวลาต้องการจะซื้อก็ค่อยใส่กลับเข้ามาในตะกร้า จะได้ไม่ต้องไป search แล้ว add to cart ใหม่ให้เสียเวลา
ถ้าเรายังไม่อยากจะซื้อตอนนี้ กด Save for later เพื่อเอาของพักแล้วนอกตะกร้าเราก่อน เวลาต้องการจะซื้อก็ค่อยใส่กลับเข้ามาในตะกร้า จะได้ไม่ต้องไป search แล้ว add to cart ใหม่ให้เสียเวลา
In stock = มีของอยู่เลย
Eligible for Free Super Shipping (FSS) =
ฟรีค่าส่งในอเมริกา เดี๋ยวจะพูดถึงอันนี้อีกที คร่าวๆ ก็คือถ้าของในตะกร้า ขายโดย
amazon และมูลค่ารวมกันเกิน $25 ก็ฟรีค่าขนส่งในอเมริกาDelete = ลบสินค้าออกจากตะกร้า
ถ้าจะเพิ่มจำนวน ก็แค่เปลี่ยนเลข 1 เป็น 2,3,4 ตามที่ต้องการ แล้วกด Update ราคาของในตะกร้าก็จะเปลี่ยนไปตามจำนวนใหม่
ข้อดีอีกอย่างของการ Save for later ก็คือ เวลาเรากดเข้ามาในตะกร้าของเรา ถ้าราคาของสินค้าแพงขึ้นหรือลดลง amazon จะมีหน้าต่างสีเหลืองมาแจ้งทันทีเลยค่ะ ทำให้เราสามารถทราบความเคลื่อนไหวของราคาสินค้าที่เรากำลังเล็งไว้ได้ มีประโยชน์มากๆ
สมมุติว่าเราจะซื้อ Lord of the Rings boxset อันเดียว $49.99 นี่ถูกมากๆ
เมืองไทยแพงกว่านี้หลายเท่า ก็กด Proceed to checkout ได้เลย amazon
ก็จะถามรหัสผ่านเหมือนเคย
แล้วก็ขึ้นข้อมูลที่อยู่ส่งสินค้ามา ให้ตรวจสอบดูให้ถูกต้อง แล้วเลือก Ship to this address หรือใส่ที่อยู่ใหม่ที่เราต้องการจะให้ส่งสินค้าให้ (กรณีที่ที่อยู่นั้นยังไม่เคยลงบันทึกไว้กับ amazon)
หน้านี้จะเป็นการเลือกวิธีที่เราจะให้ amazon
ส่งสินค้าในตะกร้าให้
แนะนำให้เลือก Standard International Shipping วิธีนี้ค่าส่งถูกที่สุด คนไทยใช้เยอะที่สุด โอกาสจะโดนเรียกเก็บภาษีศุลกากรน้อยที่สุด แต่ก็ใช้เวลานานที่สุดที่จะได้รับของ เร็วที่สุดที่เคยได้รับของก็ 1 อาทิตย์ ช้าที่สุดก็เดือนครึ่งส่วนมากถ้าสั่งของปลายปีจะได้รับของช้าเพราะคนช๊อปปิ้งกันเยอะ
ส่วนอีก 2 วิธีก็สำหรับพวกใจร้อน ได้ของเร็ว แต่ค่าส่งแพงมากๆ และโดนภาษี 100%
ขั้นตอนสุดท้ายก็แค่ตรวจสอบข้อมูลบัตรเครดิตของเรา กด Continue ตรวจสอบข้อมูลทั้งหมดให้ละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แล้วก็กดสั่งสินค้า ก็เป็นอันเรียบร้อย amazon จะส่ง email ให้เรา 2 ฉบับ คือทันทีที่เราสั่งสินค้าเสร็จ เอาไว้เป็นหลักฐาน แล้วอีกฉบับหนึ่งก็เวลา amazon ส่งของให้เราเสร็จ ก็จะแจ้งเลขที่พัสดุให้เราทราบ
แค่นี้ก็เป็นอันเสร็จ
สมัคร amazon
ข้อมูลจาก
http://azukikung-amazonassociates.blogspot.com/
ป้ายกำกับ:
Amazon
สมัครสมาชิก:
บทความ
(
Atom
)
gg1
บทความและภาพ ในบล็อกนี้บางบทบางภาพอาจนำมาจากเว็บไซต์อื่นที่ที่ทางเราคิดว่ามีประโชยน์ต่อผู้อ่าน โดยให้ผู้อ่านเกิดควมบันเทิง และให้ความรู้ หากไฟล์ภาพหรือบทความใด ที่เจ้าของลิขสิทธิ์ไม่ต้องการให้นำมาแสดง โปรดแจ้งมาที่ takza28@Gmail.com ทางเราจะได้นำบทความนั้นนั้นออก ขอบคุณครับ
[URL=http://www.neobux.com/?r=takza28][IMG]http://images.neobux.com/imagens/banner8.gif[/IMG][/URL]